พระเนื้อดิน กลีบบัว วัดลิงขบ
"วัดลิงขบ" เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกัน ชื่อทางราชการคือ "วัดบวรมงคล" เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชั้นราชวรวิหาร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี ใกล้กับโรงงานสุราบางยี่ขัน ท้องที่บางพลัด กทม.
"วัดลิงขบ" ชื่อนี้มีคำเล่าลือต่อๆ กันมาว่า ลุงขบ เป็นผู้สร้าง ลุงขบเป็นผู้มีถิ่นฐานมั่นคงอยู่ในบริเวณแถวนี้ และมีศรัทธาในพระพุทธศาสนาจึงสร้างวัดนี้ถวายเป็นสังฆาราม ชาวบ้านนิยมนับถือลุงขบมาก จึงเรียกว่า " วัดลุงขบ" มาก่อน แต่ต่อมาภาษาได้กร่อนไป จึงกลายเป็น "วัดลิงขบ" การสร้าง "พระพิมพ์กลีบบัว" นี้ พระสุเมธาจารย์ (ศรี) ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ "พระครูราชปริศ" ได้มารักษาการในตำแหน่งเจ้าอาวาสแทนพระรามัญมุนี (ยิ้ม) เจ้าอาวาสวัดบวรมงคล รูปที่ ๓ ได้มรณภาพลง (ครองวัดปี ๒๓๘๐-๒๔๑๐) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมีพระเถราจารย์ผู้เรืองเวทวิทยาคมในสมัยนั้นมาร่วมพิธีปลุกเสก ซึ่งมีอยู่มากมายหลายท่านด้วยกัน มีบางท่านกล่าวว่า พระพิมพ์กลีบบัว นี้สร้างในช่วงที่เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังฯ ธนบุรี ยังมีชีวิตอยู่ จึงอาจจะเป็นไปได้ว่า เจ้าประคุณสมเด็จโตฯ จะได้รับนิมนต์มาร่วมปลุกเสกด้วยก็ได้ เมื่อเทียบปี พ.ศ.ดูแล้ว เห็นว่าตรงในสมัยของเจ้าประคุณสมเด็จโตฯ จริง ก็อาจจะเป็นไปได้ อันนี้ถือเป็นข้อสันนิษฐาน มิใช่ข้อยืนยันว่าเป็นจริง การแตกกรุของพระกลีบบัววัดลิงขบ นั้นเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๐๙ มีผู้ลักลอบขุดกรุพระที่องค์เจดีย์ของวัดลิงขบ ได้นำพระบูชา พระเครื่องออกไปเป็นจำนวนมาก ทางวัดทราบข่าวจึงได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ยังมีผู้แอบมาลักลอบขุดกรุพระอีกเสมอๆ ทางวัดจึงได้แจ้งต่อกรมการศาสนา และขออนุญาตเปิดกรุพระนี้ขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๐๙ กรุพระที่ขุดนี้มี ๒ จุด คือ กรุที่ฐานเจดีย์และที่คอระฆังเจดีย์ ปรากฏว่าได้พระบูชา และพระเครื่องชนิดต่างๆ มากมาย ที่มีมากเป็นพิเศษ คือ พระพิมพ์กลีบบัวเนื้อดินเผา ซึ่งมีจำนวนถึง ๗๕,๐๐๐ องค์ ที่สมบูรณ์พระจึงไม่แพง
|